แปลงคอนโดร้อนให้เย็นสบาย อากาศร้อนขนาดไหนก็เอาอยู่

แปลงคอนโดร้อนให้เย็นสบาย อากาศร้อนขนาดไหนก็เอายู่ ไม่ว่าจะฤดูไหน เมืองไทยก็ยังเต็มไปด้วยอากาศร้อนอบอ้าวที่ยากจะเลี่ยง และหากถ้าพื้นที่พักอาศัยในคอนโดที่มีขนาดจำกัด อาจก่อให้ไม่มีพื้นที่มากพอต่อการหนีความร้อนที่เกิดขึ้นในหนึ่งวัน

หากแม้คอนโดจะมีขนาดจำกัดรวมทั้งยากต่อการใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศแจ่มใสเย็นสบาย แม้กระนั้นปัญหาพวกนั้นจะหมดไปได้ แค่เพียงมีกลเม็ดกลุ่มนี้

– เลือกแนวทางของห้องให้สมควรพื้นที่อาศัยอย่างคอนโดเปรียบได้

ดั่งบ้านที่อยู่กับพวกเราไปนานนม เมื่อคุณได้ตกลงใจตกลงเลือกซื้อคอนโดที่ถูกอกถูกใจไว้ภายในครองสำหรับเพื่อการดำเนินชีวิตในทุกๆวัน แม้กระนั้นปัญหาเกี่ยวกับการอาศัยที่รอก่อกวนดวงใจบางทีอาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากว่าไม่มีการวางเป้าหมายรวมทั้งจัดแจงที่ดีเพียงพอ โดยยิ่งไปกว่านั้นปัญหาห้องร้อน อากาศอบอ้าวระหว่างวัน

รวมทั้งทำให้เกิดความรู้สึกป่วยในขณะพักตอนกลางคืน เพราะว่าแนวทางของห้องบางทีอาจจัดวางในมุมที่ตรงกับแสงตะวันยามบ่าย ก็เลยทำให้พื้นที่ด้านในห้องได้รับอิทธิพลจากความร้อนแบบเต็มๆที่ยากจะหลบหลีก เพื่อไม่ให้กำเนิดปัญหาห้องร้อนจนกระทั่งนอนไม่ไหวจึงต้องควรพินิจแนวทางของแดดเป็นหลักก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจเลือกซื้อห้องคอนโด

 

– ตกแต่งด้วยโทนสีสบายตา ด้วยเหตุว่าโทนสีมีผลกระทบต่อการพักอาศัย

การตกแต่งด้านในด้วยเฉดสีต่างๆก็เลยสามารถสร้างบรรยากาศข้างในห้องให้ไม่เหมือนกันออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งโทนสีโดยส่วนมากที่นิยมประยุกต์ใช้สำหรับในการตกแต่งห้องคอนโดควรจะย้ำไปที่โทนสีที่ดูแล้วให้ความรู้ความเข้าใจสึกสบายตาเป็นหลัก สามารถเลือกใช้ได้อีกทั้งสีสว่างและก็สีแก่

แต่ว่าต้องมีการจัดวางส่วนประกอบของการประสมประสานระหว่างโทนสีที่ดี โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้โทนสีแก่สำหรับเพื่อการตกแต่งห้อง หากว่าไม่มีการวางเป้าหมายก็อาจจะส่งผลให้บรรยากาศ

โดยรวมของห้องมองมืดทึบ เชิญอึดอัด และไม่น่าอยู่ได้เหมือนกัน หรือถ้าเกิดเป็นห้องคอนโดที่มีขนาดจำกัดก็ควรจะเลือกใช้โทนสีสว่างสำหรับในการตกแต่งเป็นหลัก เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศภายให้โปร่งสบายแล้วก็อำพรางตาให้มุมห้องมองกว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

 

– สร้างพื้นที่สีเขียวขอบระเบียง คุ้มครองความร้อนด้านนอกไปสู่พื้นที่ในห้อง

โดยการแต่งสวนปลูกต้นไม้ขอบระเบียงให้ร่มรื่น เพื่อช่วยลดอุณหภูมินอกห้องให้เย็นสบายมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะความร้อนจะเข้าสู่พื้นที่อาศัยในห้องเช่าผ่อนส่วนตัว โดยบางทีอาจทำเป็นระแนงสำหรับห้อยสวนกระถางที่มีขนาดเล็กก็ได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย    ปัญหาการได้ยิน

ขับรถให้ปลอดภัยยังไง  ถ้าต้องขับลุยน้ำท่วม 

สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการขับรถเมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วม   ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่มีความชำนาญไม่มีความระมัดระวังก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 

อันดับแรกเลยเราจะต้องดูสภาพรถของเราก่อนว่ารถของเรานั้นสามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้หรือไม่เพราะรถยนต์แต่ละคันนั้นมีความสามารถในการลุยน้ำท่วมที่มีความสูงแตกต่างกันออกไป 

โดยถ้าหากว่ารถเราเป็นรถยนต์ขนาดเล็กคันไม่ใหญ่มากนักความสามารถในการลุยน้ำท่วมนั้นจะมีน้อยมากโดยเราไม่ควรขับรถลุยน้ำเกินความสูง 15 เซนติเมตรแต่ถ้าหากว่าเราขับรถกระบะหรือรถออฟโรดนั้นความสูงก็ควรจะไม่เกิน 20 ถึง 30 ซมเท่านั้นและที่สำคัญถ้าเราจำเป็นที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วมนั้นอย่าลืมว่าคุณควรที่จะต้องปิดแอร์ด้วยเพื่อที่จะไม่ให้น้ำซัดเข้าไปโดนระบบไฟฟ้าของตัวรถ 

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมนั่นก็คือถ้าหากว่าเรารู้ว่าน้ำมันท่วมสูงมากเราก็ไม่ควรที่จะฝ่าฝืนขับรถลุยน้ำท่วมแต่เมื่อใดก็ตามที่มีความจำเป็นมากที่จะต้องฝ่าไปให้ได้ต้องขับรถด้วยความช้าโดยเลือกใช้เกียร์ต่ำๆเพราะโอกาสที่คลื่นน้ำจะกระเซ็นเข้ามาภายในตัวรถของเรานั้นมีเยอะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าเป็นถนนที่วิ่งสวนเลนกันไปมาโอกาสที่รถยนต์อีกคันนึงจะวิ่งสวนแล้วทำให้เกิดขึ้นน้ำมากระเซ็นที่รถของเรานั้นก็มีส่งเช่นเดียวกันดังนั้นเราจึงควรขับรถด้วยความช้าๆและระมัดระวังเป็นพิเศษ  

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจุดที่เราขับรถลุยไปนั้นน้ำจะไม่ท่วมเยอะมากนักและไม่สร้างอันอันตรายให้กับตัวรถได้แต่ก็ไม่ควรขับรถเร็วเช่นเดียวกันเพราะอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้เช่นคนขับรถมอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่คนเดินทางเท้าก็อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำที่กระเซ็นจากการวิ่งของรถยนต์ของเราได้เพราะฉะนั้นขับไปช้าๆจะเป็นการดีที่สุด

สำหรับใครที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมไปนั้นถ้ามีรถยนต์คันอื่นวิ่งไปกับเราด้วยถ้าหากว่าเราตามหลังรถยนต์คันอื่นเราก็ควรที่จะเว้นระยะห่างจากรถยนต์คันอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 500 เมตรเนื่องจากว่าเวลาที่รถของเราลุยอยู่ในน้ำนั้นเบรคของรถยนต์จะมีการแช่น้ำอยู่ตลอดเวลา โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันนั้นจึงเกิดได้ง่ายเพราะประสิทธิภาพการทำงานของเบรคจะไม่ดีเหมือนตอนที่อยู่บนท้องถนนปกติ 

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเราสามารถฝ่าน้ำท่วมไปได้แล้วและถึงที่หมายโดยเสรีภาพ  อย่าเพิ่งดับเครื่องทันทีเพราะจะสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้เราควรจะต้องมีการจอดแล้วติดเครื่องยนต์เอาไว้สัก 15-20 นาทีก่อนเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวรถของเรา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ตรวจสุขภาพประจำปี

รู้หรือไม่การนอนนั้นดีต่อสุขภาพ  ทำให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคร้าย 

ผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยใส่ใจเกี่ยวกับการนอนมากนักเพราะมองว่าการทำงานหาเงินนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

นอกจากนี้บางคนยังชื่นชอบการเที่ยวกลางคืนทำให้มีเวลานอนน้อยและหลายๆคนมองว่าเมื่อแก่ตัวไปก็จะไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆตามที่สมัยยังเป็นวัยรุ่นได้แล้วดังนั้นจึงเลือกที่จะทำตามใจตนเองด้วยการทำกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบและละเลยเกี่ยวกับการนอน

อย่างไรก็ตามคนรู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วการนอนนั้นมีประโยชน์อย่างมากซึ่งถ้าหากว่าเรานอนในช่วงเวลาที่เหมาะสมและนอนในปริมาณที่เหมาะสมก็จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและยังทำให้เราไม่เป็นโรคได้ง่ายอีกด้วย

สำหรับใครที่นอนพักผ่อนเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการนั่นก็คือประมาณ 6-8 ชั่วโมงเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกว่าสดชื่น

และทำอะไรก็จะรู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่า มีความรู้สึกมีความสุขเมื่อต้องเจอกับปัญหามากมายก็สามารถใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาได้แต่ในขณะเดียวกันสำหรับใครที่นอนน้อยอาจจะนอนเพียงแค่วันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้นเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียไม่สดชื่นและเมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคในระหว่างวันนั้นก็รู้สึกเครียดและหงุดหงิดง่าย ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากการนอนน้อยและพักผ่อนน้อยนั่นเอง

อย่างไรก็ตามข้อเสียของการนอนน้อยนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและความเครียดเท่านั้นแต่ยังมีข้อเสียอีกเยอะแยะมากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสียเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพเพราะการนอนพี่เพียงพอนั้นมันจะทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเรารวมถึงสมองของเราได้มีการพักผ่อนและยังสามารถฟื้นฟูการทำงานภายในร่างกายได้อีกด้วยแต่เมื่อเรานอนน้อยเอาไว้ภายในร่างกายของเรานั้นก็จะไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่ทำให้เสื่อมโทรมได้เร็วมากกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไปและเมื่อร่างกายไม่แข็งแรงทั้งภายในและภายนอกก็จะส่งผลทำให้ไม่สามารถที่จะสร้างภูมิต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้ทำให้เกิดเป็นโรคได้ง่ายกว่าคนอื่นที่นอนตามปกติ 

ดังนั้นถ้าหากว่าใครยังอยากมีชีวิตที่ยาวนาน  และรักตัวกลัวตาย  อยากจะอยู่กับลูกกับหลานอยู่กับคนรักไปอีกหลายสิบปี

แนะนำว่านอกจากจะต้องกินอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงแล้วการนอนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันพยายามนอนให้ได้มากที่สุดถึงแม้ว่าเราจะมีงานเยอะมากแค่ไหนก็ตามอย่างน้อยก็ควรจะต้องประมาณ 5-6 ชั่วโมง 

นอกจาก  คาสิโน เวียดนาม ดานัง    นี้อย่าลืมว่าถ้าหากเราอดนอนอยู่บ่อยๆนั้นเราควรจะหาเวลาหาวันหยุดพักผ่อนยาวๆนอนตื่นสายๆเช่นถ้าหากว่าวันธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์เราจำเป็นที่จะต้องนอนดึกตื่นเช้าในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นั้นก็จะควรเป็นช่วงที่เราจะต้องให้เวลากับตนเองด้วยการให้เร็วขึ้นและนอนตื่นสายๆก็จะเป็นการชดเชยการนอนไม่เพียงพอในช่วงระหว่างสัปดาห์ได้เช่นกัน

ปากดำคล้ำทำยังไงดี

เรื่องของริมฝีปากนั้นเป็นเรื่องที่สาวๆทุกคนจะต้องใส่ใจมาก  และปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่สาวๆเท่านั้นพ่อแม้แต่หนุ่มๆเองก็หันมาใส่ใจริมฝีปากของตนเองกันเป็นอย่างมากแน่นอนว่าถ้าปากของเราเป็นสีอมชมพูนั่นหมายถึงว่าเราเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีร่างกายแข็งแรงและใครๆก็คงอยากจะมองริมฝีปากที่เป็นสีอมชมพูของเราที่เป็นสีชมพูธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งพาลิปสติก 

 แต่เมื่อใดก็ตามที่ริมฝีปากของเราดำค้ำแล้วเราคงต้องรู้สึกเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากเพราะเราเองก็รู้สึกอายที่จะให้คนอื่นเห็นปากที่ดำคล้ำของเรา

เพราะมันไม่น่ามองและไม่น่าจบแม้แต่นิดเดียวนอกจากนี้เวลาที่เราใช้เครื่องสำอางตกแต่งใบหน้ารวมถึงทาลิปสติกบำรุงปากสีของลิปสติกนั้นก็อาจจะไม่สวยเหมือนกับตอนที่เราซื้อมาเพราะสีปากของเรานั้นเป็นสีดำคล้ำเมื่อทาลิปสติกไปก็จะไม่ได้สีตามที่เราซื้อมานั่นเองมาดูกันว่าเราสามารถที่จะดูแลริมฝีปากของเราอย่างไรได้บ้างเพื่อไม่ให้ริมฝีปากของเรานั้นเป็นสีดำคล้ำ 

วิธีการดูแลริมฝีปากไม่ให้เป็นสีดำคำนั้นไม่มีอะไรยุ่งยากเลยเราสามารถที่จะบำรุงด้วยการดูแลสุขภาพของตนเองนั่นก็คือมีการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอซึ่งโดยปกติแล้วปริมาณที่เพียงพอต่อวันนั้นควรจะต้องมีการดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร

เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของคนเรานั้นมีความจำเป็นอย่างมากในการใช้น้ำเพื่อบำรุงร่างกายและผิวพรรณดังนั้นถ้าหากน้ำน้อยนอกจากผิวพรรณจะมีรอยเหี่ยว  คล้ำ กร้านแล้ว ริมฝีปากของเราเองก็จะไม่มีความชุ่มชื่นและคล้ำได้เช่นเดียวกัน  ดังนั้นการกินน้ำเยอะๆจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้เราควรที่จะทานผักผลไม้ที่มีสีแดงเพราะมันจะมีสารและแร่ธาตุต่างๆที่ช่วยบำรุงผิวและริมฝีปากของเราให้มีความชุ่มชื่นยกตัวอย่างเช่นสตอเบอรี่

หรือแม้แต่มะเขือเทศเป็นต้นและที่สำคัญเนื้อสิ่งใดเลยเราควรหาลิปสติกที่มันจะสามารถปกป้องผิวของริมฝีปากของเราได้เพราะอย่าลืมว่าริมฝีปากของเรานั้นก็ต้องโดนแสงจากดวงอาทิตย์เพราะฉะนั้นก็จะต้องสัมผัสกับรังสี UV และยังต้องเจอกับมลพิษดังนั้นเราควรหาลืมสติที่มีสารกันแดดมาทาก็จะช่วยไม่ให้ปากของเราคล้ำได้ง่าย

สำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการทำกับริมฝีปากนั่นก็คือการเรียนริมฝีปากเพราะการเรียนริมฝีปากนั้นจะทำให้ผิวแห้งและเกิดความระคายเคืองและทำให้ปากเป็นขุยไม่น่ามองรวมถึงถ้าหากใครมีเวลาว่างก็ควรที่จะมีการมาร์คริมฝีปากเป็นประจำอาทิตย์ละครั้งก็ยังดีซึ่งวิธีการมักริมฝีปากนั้นทำได้ง่ายๆจากวัสดุที่มีอยู่ในครัว

โดยใช้เพียงแค่น้ำตาลทรายผสมกับน้ำผึ้งและน้ำมันมะกอกมากขัดเซลล์ผิวตรงบริเวณริมฝีปากก็จะทำให้คอยขลุ่ยของริมฝีปากของเรานั้นถูกสครับไปและริมฝีปากของเรานั้นก็จะดูชุ่มชื่นหน้าสัมผัสเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    สุขภาพหู

มาทำความรู้จักกับ โรคเก็บตัว กันเถอะ 

โรคเก็บตัว หรือที่รู้จักกันในภาษาญี่ปุ่นว่า “ฮิคิโคโมริ”  เป็นปรากฏการณ์ที่คนจำนวนมากโดยเฉพาะในญี่ปุ่นเลือกที่จะถอนตัวออกจากสังคมและใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องของตนเองเป็นเวลานาน บางครั้งอาจยาวนานเป็นปีหรือหลายปี โดยไม่ออกไปทำงานหรือเรียน และไม่ติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอก โรคนี้มักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว แต่อาจเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่านั้นด้วย

สาเหตุของโรคเก็บตัวมีหลายประการ ทั้งจากสภาพจิตใจและสังคมในญี่ปุ่น หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือแรงกดดันทางสังคมและครอบครัว ในญี่ปุ่น

มีความคาดหวังสูงต่อการศึกษาและความสำเร็จในชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านวัฒนธรรมที่ทำให้การแสดงออกทางอารมณ์ถูกจำกัด เมื่อคนบางคนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคมได้ พวกเขาอาจเลือกที่จะหนีจากสถานการณ์เหล่านั้นโดยการเก็บตัวอยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือ ห้องของตนเอง

 

การแพร่หลายของโรคเก็บตัวในญี่ปุ่นอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดแรงงาน และการขาดแคลนโอกาสทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ตลาดงานได้ตามที่คาดหวัง อีกทั้งระบบการศึกษาที่เน้นความสำเร็จอย่างเข้มงวด และความกดดันจากครอบครัวที่ต้องการเห็นลูกหลานของตัวเอง ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้บางคนเลือกที่จะปลีกตัวออกจากสังคม

 

การป้องกันโรคเก็บตัวควรเริ่มจากการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและเข้าใจต่อความรู้สึกของคนหนุ่มสาว ครอบครัวควรมีบทบาทในการสนับสนุนและให้กำลังใจ โดยไม่เพิ่มแรงกดดันทางด้านการศึกษาและการทำงาน การส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะในการจัดการกับความเครียด

และปัญหาทางอารมณ์ การสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกทางความรู้สึก และการสื่อสารอย่างเปิดเผยระหว่างสมาชิกในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ

 

สำหรับการรักษาโรคเก็บตัว การช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ การทำจิตบำบัดหรือการให้คำปรึกษา (counseling) อาจช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าใจและจัดการกับสาเหตุที่ทำให้เกิดความเก็บตัว การบำบัดด้วยวิธีการเจรจาและการฝึกทักษะสังคม (social skills training)

อาจช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาเชื่อมโยงกับสังคมได้ นอกจากนี้ การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้ป่วย

 

โดยสรุป โรคเก็บตัวเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางจิตใจและสังคม โดยเฉพาะในวัฒนธรรมที่มีความคาดหวังสูงเช่นในญี่ปุ่น  ดังนั้นการป้องกันและรักษาโรคนี้ผู้ที่ป่วยจึงต้องการการสนับสนุนที่ครอบคลุมทั้งจากครอบครัว สังคม และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

ปรับปรุงบ้านเพิ่มเติมอย่างไร ให้บ้านเย็นสบายลดการใช้ไฟฟ้า

ปรับปรุงบ้านเพิ่มเติมอย่างไร ให้บ้านเย็นสบายลดการใช้ไฟฟ้า ทุกวันนี้อากาศเมืองมีแต่คำว่าร้อน ฤดูต่าง ๆ ก็เปลี่ยน ร้อน ร้อน-ฝน ร้อนชื้น ร้อน ซึ่งทั้งนี้ค่าไฟก็เพิ่มมากขึ้น มีวิธีการปรับปรุงบ้านเพื่อให้เย็นสบายอย่างไร

  1. ทดลองขุดหนองน้ำในรอบ ๆ บ้าน โดยธรรมชาติเมื่อน้ำได้รับแสงแดดแผดเผาก็จะระเหยเป็นละอองน้ำ แล้วก็เมื่อมีลมพัดก็จะพัดพาละอองน้ำพวกนั้นเข้ามาทำให้อุณหภูมิรอบ ๆ ลดน้อยลงจนถึงอยู่ในสภาวะน่าสบายได้ แม้กระนั้นถ้าหากอยากขุดเพียงแค่บ่อปลาที่ลึกเพียงแค่ 30-50 เซนติเมตรก็พอเพียงช่วยได้ครับผม แต่ว่าน้อยมากด้วยเหตุว่าอุณหภูมิน้ำกับอากาศแตกต่างไม่มากพอที่จะทำให้สบาย ระดับความลึกที่จะทำให้น้ำมีอุณหภูมิที่เย็นสบายเป็นที่ระดับ 1.50 เมตร ขอรับรวมทั้งความลึกระดับนี้จะก่อให้อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ราว ๆ 28 องศา เป็นอุณหภูมิที่จะทำให้บริเวณรอบ ๆ สบายไม่ร้อน

 

  1. ใช้กระจกสะท้อนความร้อนรวมทั้งรังสี UV ตอนนี้เทคโนโลยีการสร้างกระจกมีความล้ำยุค สามารถทำกระจกกันความร้อน สะท้อนความร้อนแล้วก็รังสี UV ได้หลายระดับให้เลือก ถึงแม้ราคาจะแพงกว่ากระจกทั่ว ๆ ไปแม้กระนั้นในระยะยาวก็จัดว่าคุ้ม พวกเราจำเป็นจะต้องเลือกกระจกอย่างนี้มาจัดตั้งในบ้านของพวกเราแทนกระจกใสปกติ ก็จะสามารถช่วยให้พวกเราลดการสิ้นเปลืองพลังงานจากแอร์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนในตึกที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงกระจกได้ก็สามารถเพิ่มฟิล์มถ่ายรูปป้องกันแสงแดด ซึ่งก็มีมากมายเกรดหลายแบรนด์ให้เลือก ก็จะก่อให้อุณหภูมิปกติเย็นขึ้นไม่ได้แตกต่างจากกระจกสะท้อนความร้อนรวมทั้ง UV มากเท่าไรนัก

 

  1. ผ้าม่านทึบแสง อีกหนึ่งแนวทางที่สามารถจะช่วยลดลักษณะการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เป็นการติดตั้งผ้าม่านที่มีการทึบแสงสูง โน่นเป็นเกือบจะไม่มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้เลยหรือบางทีอาจจะเข้ามาได้เพียง 5-10% ก็พอเพียงแล้ว หรือบางทีอาจใช้ผ้าม่านที่มีสารฉาบสะท้อนความร้อนรวมทั้งสาร UV ข้างนอกก็ช่วยได้

 

  1. เลือกแอร์แบบระบบ Inverter ลักษณะการทำงานของแอร์อย่างนี้จะแตกต่างจากแบบเดิม ๆ เป็น ชุดแต่งกายเดิมเมื่ออุณหภูมิถึงจุดที่ตั้งไว้ มอเตอร์ก็จะตัดอัตโนมัติและก็จะปฏิบัติงานอีกทีเมื่ออุณหภูมิสูงมากขึ้นทำให้สูญเสียกระแสไฟฟ้าสำหรับในการเปิด-ปิดระบบมากมายกว่าระบบ Inverter ที่จะไม่ตัดระบบมอเตอร์

แต่ว่าเมื่ออุณหภูมิถึงระดับที่ตั้งไว้ มอเตอร์เครื่องปรับอากาศจะลดการทำงานลงมาแต่ว่าไม่ปิด ซึ่งกรรมวิธีนี้พวกเราสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20-30% ทีเดียวขอรับ นอกเหนือจากนี้ระบบจะมีผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นเร็วกว่าระบบทั่ว ๆ ไป แต่ว่าเสียงเงียบกว่า อีกทั้งช่วยลดปัญหาเหม็นอับจากลมเครื่องปรับอากาศได้ดิบได้ดีขึ้นทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

ทำนายเทรนด์เครื่องสำอางปี 2024

ในขณะที่เราตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2024 เทรนด์เครื่องสำอางใดบ้างที่จะเติบโตต่อไป และเทรนด์ใหม่อะไรที่เราคาดหวังได้สำหรับอุตสาหกรรมการดูแลส่วนบุคคล มีมากมายในร้านค้า มาเจาะลึกใน แนวโน้มในปัจจุบันที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดที่แบรนด์เครื่องสำอางจะต้องยอมรับในปี 2024

ก็คือความยั่งยืนที่แท้จริง: ทำให้ข้อความเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านเครื่องสำอางของคุณโปร่งใส พร้อมหลักฐานและการกล่าวอ้างที่ชัดเจน และพิจารณาห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

เราได้เห็นการเรียกร้องของผู้บริโภคสำหรับแนวทางที่ยั่งยืนในทุกอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2024 สิ่งนี้จะกลายเป็นสิ่งสำคัญ แบรนด์เครื่องสำอางต้องมีคำแถลงด้านความยั่งยืนและคะแนนเชิงนิเวศน์ ดังนั้นเริ่มต้นดำเนินการทันที

การดูแลหนังศีรษะจะยังคงมีบทบาทสำคัญในภาคผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หากแบรนด์ของคุณนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เซรั่มดูแลหนังศีรษะอย่างน้อยหนึ่งหรือสองรายการเพื่อช่วยบำรุงเส้นผมจากรากจะเป็นส่วนเสริมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของคุณ มีส่วนผสมออกฤทธิ์มากมายพร้อมข้อมูลประสิทธิภาพที่โดดเด่น

พิจารณาเพิ่มเซรั่มหนังศีรษะเพื่อต่อสู้กับรังแค ลดจำนวนผมหงอก หรือลดการหลุดร่วงของเส้นผมและเพิ่มปริมาตร สารออกฤทธิ์ที่สนับสนุนและปรับสมดุลของไมโครไบโอมจะยังคงมีจำนวนและทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เหมือนกับที่ไมโครไบโอมที่ดีต่อสุขภาพควรจะเป็น!

ตอนนี้คุณสามารถรับพรีไบโอติกเพื่อสนับสนุนไมโครไบโอมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับต่อต้านสิว ต่อต้านวัย และแม้กระทั่งผิวบอบบาง พูดคุยกับซัพพลายเออร์ของคุณและเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เน้นไมโครไบโอมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของคุณเพื่อให้ทันกับแนวโน้มการเติบโตนี้

แนวโน้มอีกประการหนึ่งที่เราเห็นว่าเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีกในปี 2567 ก็คือการใช้ชีวิตแบบองค์รวมและมีสติ

ความนิยมอย่างต่อเนื่องในภาคสุขภาพและอาหารหมายถึงสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และแนวทางการดูแลผิวแบบองค์รวมจะมีบทบาทอย่างมากในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปี 2567 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้จากทางเลือกที่ยั่งยืน และรวมถึงสูตรเครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับมังสวิรัติสำหรับผิวและเส้นผม

เทรนด์ใหม่ที่จะมาแรงในปี 2024 วิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีความสำคัญมาโดยตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หรูหราหรือมีราคาสูงกว่า แม้ว่าคำศัพท์ต่างๆ เช่น เปปไทด์และแหล่งโปรตีนที่เป็นมิตรกับมังสวิรัติจะยังคงได้รับความนิยม แต่เราจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำโดยวิทยาศาสตร์ เช่น การต่อสู้กับการชราภาพของเซลล์ เซลล์ต้นกำเนิด และอีพิเจเนติกส์ กลายเป็นประเด็นสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

ในฐานะส่วนหนึ่งของการมุ่งเน้นไปที่วิทยาศาสตร์ผิวหนัง และในขณะที่ตอบรับความต้องการของประชากรสูงวัยทั่วโลก เรายังจะได้เห็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทดแทนที่ไม่ต้องผ่าตัดและแบบฉีดออกจำหน่ายมากขึ้นสำหรับโซลูชั่นต่อต้านวัย

สารออกฤทธิ์จากเทคโนโลยีชีวภาพและการหมักชีวภาพจะเกิดขึ้นจริงในปี 2024 วิธีการเหล่านี้ในการสร้างสารออกฤทธิ์ที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกไม่เพียงแต่ให้ส่วนผสมที่ได้มาจากธรรมชาติซึ่งมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนและของเสียต่ำ (และดังนั้นจึงเป็นข้อความเกี่ยวกับความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง) แต่ยังสนับสนุนวิทยาศาสตร์เบื้องหลังผู้บริโภคที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วย

มองหาและแน่นอนว่าให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ฉันต้องการพูดเพิ่มเติมหรือไม่? พูดคุยกับซัพพลายเออร์ของคุณเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพหรือส่วนผสมเครื่องสำอางหมักเพื่อดูว่าส่วนผสมใดจะมีคุณสมบัติดีที่สุดในสูตรและการพัฒนาเครื่องสำอางที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ภาคผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจะยังคงขยายตัวต่อไป เราได้เห็นการเปิดตัวมากมายในปี 2023

พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเส้นผมแต่ละบุคคล และ  เครื่องช่วยฟัง     เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในปี 2024

โดยมุ่งเน้นที่การใช้โปรตีนและเคราตินที่เป็นมิตรกับพืชเป็นหลัก ในปี 2024 โฟกัสจะเปลี่ยนจากการจัดแต่งทรงผมธรรมดาๆ มาเป็นสูตรซ่อมแซมเส้นผมที่ใช้เป็นประจำทุกวัน และเราจะได้เห็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่จะเปิดตัวในภาคส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจในปี 2024

สิ่งที่น่าสนใจที่ควรจับตามองคือวิธีที่แบรนด์จะตอบสนองความต้องการในการปรับแต่งเฉพาะบุคคล ขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความครอบคลุมมากขึ้น

แม้ว่าการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะกับความชอบเฉพาะเจาะจงนั้นมีให้เห็นและเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากไปสู่การไม่แบ่งแยก แบรนด์ที่ชาญฉลาด

ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวทางที่ครอบคลุม (เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลาง กลิ่น การตลาด และความต้องการทั่วไปของหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์) พร้อมการปรับแต่ง (พิจารณา: วิธีการจ่ายสารออกฤทธิ์ ประสาทสัมผัส หรือสารแต่งสีเพิ่มเติมอย่างชาญฉลาด) จะได้รับการสังเกตเห็นอย่างแท้จริงในปี 2024

คุ้มครองปกป้องที่พักผ่อนจากไรฝุ่นละออง ไม่ใช่เรื่องยาก 

คุ้มครองปกป้องที่พักผ่อนจากไรฝุ่นละออง ไม่ใช่เรื่องยาก ปัญหาที่สำคัญของห้องนอนเป็นไรฝุ่นผงที่เกาะอยู่ตามผ้าที่มีไว้ปูที่นอน หมอน ผ้าที่เอาไว้สำหรับห่ม แล้วก็ที่นอนนอน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้ที่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้มากกว่าที่คาดหวัง

ถึงแม้ไรฝุ่นละอองจะเป็นแมลงตัวจิ๋วที่มีขนาดเล็กมากมายกระทั่งยากจะแลเห็น แต่ว่าปัญหาที่ตามมาเมื่อกำเนิดไรฝุ่นผงขึ้นในที่พักผ่อน กลับส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยเหตุว่าไรฝุ่นผงเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ไม่สามารถที่จะเห็นได้ด้วยตาเปล่า จัดเป็นแมลงที่อยู่ในเครือญาติเดียวกับตัวเห็บและก็แมงมุม โดยชอบอาศัยอยู่ตามบ้านเมืองในรอบๆที่มีความอับเปียกชื้นรวมทั้งตามเส้นใยผ้าต่างๆและก็เจริญวัยก้าวหน้าในสิ่งแวดล้อมที่มีความอุ่นเปียกชื้น ถึงจะปลอดภัยโดยตรง

แต่ว่ามูลของไรฝุ่นละอองเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบ ผื่นขึ้นตามร่างกาย รวมถึงโพรงจมูกและก็เยื่อบุตาอักเสบ การเกิดปัญหาไรฝุ่นละอองด้านในห้องนอนก็เลยแปลงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่อาจมองผ่าน โดยควรจะให้ความเอาใจใส่กับพื้นที่ในห้องนอนตั้งแต่เรื่องความสะอาด ด้วยแนวทางกล้วยๆพวกนี้

ชำระล้างผ้าที่มีไว้เพื่อปูที่นอนและก็ปลอกใส่หมอนเสมอๆ ชุดที่นอนหมอนมุ้งอย่างผ้าที่เอาไว้ปูที่นอน หมอน หรือแม้กระทั้งผ้าที่เอาไว้ห่มที่จำเป็นต้องใช้งานเสมอๆด้านในห้องนอน ล้วนเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและก็ระบบทางเท้าหายใจเป็นอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นไรฝุ่นผงที่ซุกซ่อนตัวอยู่ตามเส้นใยผ้าพวกนั้น

ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ และก็สิ่งสกปรกแหล่งชุมนุมกับรอยเปื้อนเหงื่อไคลต่างๆที่ติดอยู่ตามชุดที่นอนหมอนมุ้ง

เมื่อไม่มีกระบวนการทำความสะอาดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็เลยกำเนิดเป็นเชื้อโรคไรฝุ่นผงที่สะสมอยู่ด้านในห้องนอน การเปลี่ยนชุดที่นอนหมอนมุ้งบ่อยๆด้วยการนำไปล้างชำระล้างอยู่ตลอดทุกอาทิตย์ ก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาไรฝุ่นผงข้างในห้องนอนได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

นำที่นอนนอนแล้วก็หมอนไปผึ่งแดด สำหรับชุดที่นอนหมอนมุ้งที่ยากต่อวิธีซักล้างชำระล้างชี้แนะให้เลือกใช้ขั้นตอนธรรมชาติอย่างการตากแดด

โดยการนำชุดที่นอนหมอนมุ้งที่ยากต่อวิธีสำหรับซักไปผึ่งแดดเสมอๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรังสีจากแดดช่วยกำจัดจำนวนเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในชุดที่นอนหมอนมุ้งให้ต่ำลง

 

ดูดฝุ่นละอองในห้องนอนอย่างสม่ำเสมอ การดูดฝุ่นผงในห้องนอนเสมอๆนับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถจะช่วยลดการเกิดไรฝุ่นละอองได้มากขึ้น

แต่ว่าเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการกำจัดไรฝุ่นผงได้อย่างดีเยี่ยม ควรที่จะทำการเลือกใช้เครื่องดูดไรฝุ่นละอองที่มีคุณภาพดีแทนการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นผงปกติ ก็จะช่วยในการขจัดรอยคราบปัญหาไรฝุ่นผงในห้องนอนได้อย่างมีคุณภาพ

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

หลังวิกฤตการณ์น้ำท่วม ต้องรีบดูแลบ้านขับไล่ความชื้น

หลังจากเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วมบ้าน เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านคงกำลังมองหาวิธีทำความสะอาดบ้านหลังจากนี้กันอยู่ ซึ่งการที่ทิ้งบ้านให้แช่น้ำนาน ๆ จะทำให้เชื้อราและความชุ่มชื้นเต็มในบ้านไปแล้ว ซึ่งวันนี้เรามีวิธีดูแลบางอย่าง ดังนี้

– เครื่องเรือน หรือข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยธรรมดาอุปกรณ์กลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากสักเท่าไรนักถ้าเอามาล้างชำระล้างข้างใน 24-48 ชั่วโมงที่เจอเชื้อ หรือเริ่มพินิจเป็นดอกขึ้น

แม้กระนั้นในเรื่องที่อุทกภัยแล้วปลดปล่อยบ้านไว้นานแรมเดือนขอชี้แนะให้ทิ้งสิ่งของที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนต่าง ๆ ไปเลยไม่จำเป็นต้องลังเลอาลัยอาวรณ์ เนื่องจากว่าบางครั้งก็อาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายอย่างยิ่งขึ้นได้

 

– ย้ายเครื่องเรือน หรือเครื่องใช้สอยที่มีราขึ้น (แล้วก็ในเวลานี้ได้ชำระล้างแล้ว) ไปอยู่ในที่ที่อากาศระบายได้ดี หรือที่แดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง เป็นราว ๆ 1-2 อาทิตย์ แล้วหมั่นรอวิเคราะห์ว่า ภายหลังชำระล้างแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกไหม

ถ้าเกิดว่าไม่มี สามารถมั่นใจแล้วว่าพวกเราได้ชำระล้างเชื้อราออกไปได้สะอาดแล้วจริง ๆ แต่ว่าถ้าหากยังเจอร่องรอยของเชื้อรา ขอให้เอามาชำระล้างใหม่ ด้วยเหตุว่ามันจะลุกลามได้ง่ายดายหากวันหนึ่งอากาศเปียกชื้นอีกที

 

– วอลเปเปอร์ ใช้ salicylic acid ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 แล้วต่อจากนั้นนำผ้ามาชุบไปขัดถูวอลเปเปอร์บ่อย ๆ ราว 2 รอบ แต่ว่าหากว่ามีเชื้อราอยู่มากมาย เสนอแนะให้รื้อถอนทิ้งแล้วเปลี่ยนแปลงวอลเปเปอร์ใหม่จะดีมากกว่า

 

– เสื้อผ้า ผ้าม่าน แล้วก็ผ้าที่เอาไว้ห่ม แม้ เจอเชื้อรา สามารถทำลายเชื้อพื้นฐานได้โดยใช้น้ำร้อน หลังจากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง และก็ตากในที่ที่มีแสงอาทิตย์แค่นั้น เพื่อเป็นการทำลายเชื้ออีกครั้ง

 

– งดเว้นกิจกรรมที่จะนำไปสู่ความชุ่มชื้นข้างในบ้าน ถ้าเกิดตัวบ้านเพิ่งจะมีราขึ้นแล้วก็ได้รับกระบวนการทำความสะอาดไปใหม่ ๆ ไม่สมควรต้มน้ำ ซักผ้า ตากผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด แม้กระนั้นควรจะเปิดให้อากาศข้างนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะในวันแดดจ้า แม้ว่าจะทำให้ท่านร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่ว่าแสงอาทิตย์จะช่วยทำลายเชื้อราได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

 

ดังนี้  เวียดนามมีคาสิโนไหม   หลักจากกำจัดเชื้อราแล้ว ก็อย่าเพิ่งจะปล่อยทิ้งปล่อยวางดวงใจไป ควรจะตรวจดูอย่างสม่ำเสมอ เดี๋ยวนี้ก็บางครั้งอาจจะอ่อนแรงกันหน่อยสำหรับเรื่องดูแลชำระล้างบ้าน แม้กระนั้นจะทำยังไงได้ ก็จำต้องทำกันไป เพราะเป็นบ้านของเราหากไม่ทำความสะอาดจัดการเกรงว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านในอนาคต

ระหว่างการใส่คอนแทคเลนส์กับใส่แว่นอันไหนดีกว่ากัน

 

การเลือกระหว่างการใส่คอนแทคเลนส์และการใส่แว่นนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพของแต่ละบุคคล ดังนี้

คอนแทคเลนส์

1.ความสะดวกสบาย: คอนแทคเลนส์มักจะให้ความสะดวกสบายมากกว่าในการใช้งานทั่วไป เช่น ไม่มีอุปสรรคในการกีดกันมองเห็น และไม่มีการเคลื่อนไหวระหว่างการใช้งาน

2.การมองเห็นที่ชัดเจน: คอนแทคเลนส์มีการปรับให้สอดคล้องกับรูปร่างของดวงตา ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนและไม่มีปัญหาเรื่องการพลิกดู

3.การใช้งานในกิจกรรมกีฬา: สำหรับบางคนที่เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ต้องการการเคลื่อนไหวมาก คอนแทคเลนส์อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวของแว่นที่อาจทำให้หล่นหรือมีการสะท้อนทำให้เสียดทาน

 

แว่นตา

1.ความสะดวกสบายในการใช้งานทั่วไป: แว่นตามักมีความสะดวกสบายในการใช้งานทั่วไป ไม่ต้องมีการสังเกตเพื่อการดูแลรักษาเหมือนคอนแทคเลนส์

2.ความคุ้มค่า: แว่นตามักมีราคาที่ถูกกว่าคอนแทคเลนส์และไม่ต้องแทงความเสี่ยงในกรณีที่สูญหายหรือเสียหาย

3.สุขภาพตา: การใส่แว่นตาสามารถช่วยป้องกันฝุ่น แสงแดด และสารพิษจากสิ่งแวดล้อมได้

ดังนั้น การเลือกใช้คอนแทคเลนส์หรือแว่นตานั้น เป็นส่วนตัวและขึ้นอยู่กับความต้องการและสะดวกสบายของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ตาเพื่อเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุดตามสภาพและความต้องการของตนเอง

ใส่คอนแทคเลนส์เป็นอันตรายต่อดวงตาของเราหรือไม่

การใส่คอนแทคเลนส์อาจมีความเสี่ยงต่อดวงตา แต่ไม่จำเป็นที่จะเป็นอันตรายในทุกกรณี ด้วยเหตุผลดังนี้

1.การใส่คอนแทคเลนส์ไม่ถูกต้อง: การไม่ทำความสะอาดมือก่อนการจับคอนแทคเลนส์หรือการใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่นานๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพตา

2.การสะสมของแบคทีเรีย: คอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกทำความสะอาดอย่างเพียงพอหรือสะสมของแบคทีเรียบนผิวคอนแทคเลนส์อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาได้

3.การใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่นาน: การใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่ยาวนานอาจทำให้ดวงตาไม่ได้รับการหายใจอย่างเพียงพอหรือลดความชื้นในตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอักเสบหรือแพ้ที่ดวงตา

4.การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม: การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับสายตาหรือไม่ใช่ประเภทที่ถูกแจ้งเหตุจากอาจารย์ตา อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายในตาได้

เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตา ควรปฏิบัติตามขั้นตอนและแนวทางในการดูแลสุขภาพคอนแทคเลนส์และดวงตาที่ถูกต้อง รวมถึงปฏิบัติการล้างมืออย่างถูกต้องก่อนการใส่และถอดคอนแทคเลนส์ออกทุกครั้ง และให้เคลือบคอนแทคเลนส์ในน้ำยาที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในดวงตาลงล้าน

 แต่หากมีอาการไม่สบายในตาหรืออาการอื่นๆ เกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อประเมินและรับการรักษาให้เหมาะสม

 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโน ญาจาง