ทำนายเทรนด์เครื่องสำอางปี 2024

ในขณะที่เราตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2024 เทรนด์เครื่องสำอางใดบ้างที่จะเติบโตต่อไป และเทรนด์ใหม่อะไรที่เราคาดหวังได้สำหรับอุตสาหกรรมการดูแลส่วนบุคคล มีมากมายในร้านค้า มาเจาะลึกใน แนวโน้มในปัจจุบันที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดที่แบรนด์เครื่องสำอางจะต้องยอมรับในปี 2024

ก็คือความยั่งยืนที่แท้จริง: ทำให้ข้อความเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านเครื่องสำอางของคุณโปร่งใส พร้อมหลักฐานและการกล่าวอ้างที่ชัดเจน และพิจารณาห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

เราได้เห็นการเรียกร้องของผู้บริโภคสำหรับแนวทางที่ยั่งยืนในทุกอุตสาหกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2024 สิ่งนี้จะกลายเป็นสิ่งสำคัญ แบรนด์เครื่องสำอางต้องมีคำแถลงด้านความยั่งยืนและคะแนนเชิงนิเวศน์ ดังนั้นเริ่มต้นดำเนินการทันที

การดูแลหนังศีรษะจะยังคงมีบทบาทสำคัญในภาคผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หากแบรนด์ของคุณนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เซรั่มดูแลหนังศีรษะอย่างน้อยหนึ่งหรือสองรายการเพื่อช่วยบำรุงเส้นผมจากรากจะเป็นส่วนเสริมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของคุณ มีส่วนผสมออกฤทธิ์มากมายพร้อมข้อมูลประสิทธิภาพที่โดดเด่น

พิจารณาเพิ่มเซรั่มหนังศีรษะเพื่อต่อสู้กับรังแค ลดจำนวนผมหงอก หรือลดการหลุดร่วงของเส้นผมและเพิ่มปริมาตร สารออกฤทธิ์ที่สนับสนุนและปรับสมดุลของไมโครไบโอมจะยังคงมีจำนวนและทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เหมือนกับที่ไมโครไบโอมที่ดีต่อสุขภาพควรจะเป็น!

ตอนนี้คุณสามารถรับพรีไบโอติกเพื่อสนับสนุนไมโครไบโอมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับต่อต้านสิว ต่อต้านวัย และแม้กระทั่งผิวบอบบาง พูดคุยกับซัพพลายเออร์ของคุณและเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เน้นไมโครไบโอมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของคุณเพื่อให้ทันกับแนวโน้มการเติบโตนี้

แนวโน้มอีกประการหนึ่งที่เราเห็นว่าเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีกในปี 2567 ก็คือการใช้ชีวิตแบบองค์รวมและมีสติ

ความนิยมอย่างต่อเนื่องในภาคสุขภาพและอาหารหมายถึงสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และแนวทางการดูแลผิวแบบองค์รวมจะมีบทบาทอย่างมากในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปี 2567 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้จากทางเลือกที่ยั่งยืน และรวมถึงสูตรเครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับมังสวิรัติสำหรับผิวและเส้นผม

เทรนด์ใหม่ที่จะมาแรงในปี 2024 วิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีความสำคัญมาโดยตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หรูหราหรือมีราคาสูงกว่า แม้ว่าคำศัพท์ต่างๆ เช่น เปปไทด์และแหล่งโปรตีนที่เป็นมิตรกับมังสวิรัติจะยังคงได้รับความนิยม แต่เราจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำโดยวิทยาศาสตร์ เช่น การต่อสู้กับการชราภาพของเซลล์ เซลล์ต้นกำเนิด และอีพิเจเนติกส์ กลายเป็นประเด็นสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

ในฐานะส่วนหนึ่งของการมุ่งเน้นไปที่วิทยาศาสตร์ผิวหนัง และในขณะที่ตอบรับความต้องการของประชากรสูงวัยทั่วโลก เรายังจะได้เห็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทดแทนที่ไม่ต้องผ่าตัดและแบบฉีดออกจำหน่ายมากขึ้นสำหรับโซลูชั่นต่อต้านวัย

สารออกฤทธิ์จากเทคโนโลยีชีวภาพและการหมักชีวภาพจะเกิดขึ้นจริงในปี 2024 วิธีการเหล่านี้ในการสร้างสารออกฤทธิ์ที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกไม่เพียงแต่ให้ส่วนผสมที่ได้มาจากธรรมชาติซึ่งมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนและของเสียต่ำ (และดังนั้นจึงเป็นข้อความเกี่ยวกับความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง) แต่ยังสนับสนุนวิทยาศาสตร์เบื้องหลังผู้บริโภคที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วย

มองหาและแน่นอนว่าให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ฉันต้องการพูดเพิ่มเติมหรือไม่? พูดคุยกับซัพพลายเออร์ของคุณเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพหรือส่วนผสมเครื่องสำอางหมักเพื่อดูว่าส่วนผสมใดจะมีคุณสมบัติดีที่สุดในสูตรและการพัฒนาเครื่องสำอางที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ภาคผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจะยังคงขยายตัวต่อไป เราได้เห็นการเปิดตัวมากมายในปี 2023

พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของเส้นผมแต่ละบุคคล และ  เครื่องช่วยฟัง     เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในปี 2024

โดยมุ่งเน้นที่การใช้โปรตีนและเคราตินที่เป็นมิตรกับพืชเป็นหลัก ในปี 2024 โฟกัสจะเปลี่ยนจากการจัดแต่งทรงผมธรรมดาๆ มาเป็นสูตรซ่อมแซมเส้นผมที่ใช้เป็นประจำทุกวัน และเราจะได้เห็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่จะเปิดตัวในภาคส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโดยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจในปี 2024

สิ่งที่น่าสนใจที่ควรจับตามองคือวิธีที่แบรนด์จะตอบสนองความต้องการในการปรับแต่งเฉพาะบุคคล ขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความครอบคลุมมากขึ้น

แม้ว่าการปรับแต่งเพื่อให้เหมาะกับความชอบเฉพาะเจาะจงนั้นมีให้เห็นและเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากไปสู่การไม่แบ่งแยก แบรนด์ที่ชาญฉลาด

ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวทางที่ครอบคลุม (เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลาง กลิ่น การตลาด และความต้องการทั่วไปของหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์) พร้อมการปรับแต่ง (พิจารณา: วิธีการจ่ายสารออกฤทธิ์ ประสาทสัมผัส หรือสารแต่งสีเพิ่มเติมอย่างชาญฉลาด) จะได้รับการสังเกตเห็นอย่างแท้จริงในปี 2024

คุ้มครองปกป้องที่พักผ่อนจากไรฝุ่นละออง ไม่ใช่เรื่องยาก 

คุ้มครองปกป้องที่พักผ่อนจากไรฝุ่นละออง ไม่ใช่เรื่องยาก ปัญหาที่สำคัญของห้องนอนเป็นไรฝุ่นผงที่เกาะอยู่ตามผ้าที่มีไว้ปูที่นอน หมอน ผ้าที่เอาไว้สำหรับห่ม แล้วก็ที่นอนนอน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้ที่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้มากกว่าที่คาดหวัง

ถึงแม้ไรฝุ่นละอองจะเป็นแมลงตัวจิ๋วที่มีขนาดเล็กมากมายกระทั่งยากจะแลเห็น แต่ว่าปัญหาที่ตามมาเมื่อกำเนิดไรฝุ่นผงขึ้นในที่พักผ่อน กลับส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยเหตุว่าไรฝุ่นผงเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ไม่สามารถที่จะเห็นได้ด้วยตาเปล่า จัดเป็นแมลงที่อยู่ในเครือญาติเดียวกับตัวเห็บและก็แมงมุม โดยชอบอาศัยอยู่ตามบ้านเมืองในรอบๆที่มีความอับเปียกชื้นรวมทั้งตามเส้นใยผ้าต่างๆและก็เจริญวัยก้าวหน้าในสิ่งแวดล้อมที่มีความอุ่นเปียกชื้น ถึงจะปลอดภัยโดยตรง

แต่ว่ามูลของไรฝุ่นละอองเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคหืดหอบ ผื่นขึ้นตามร่างกาย รวมถึงโพรงจมูกและก็เยื่อบุตาอักเสบ การเกิดปัญหาไรฝุ่นละอองด้านในห้องนอนก็เลยแปลงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่อาจมองผ่าน โดยควรจะให้ความเอาใจใส่กับพื้นที่ในห้องนอนตั้งแต่เรื่องความสะอาด ด้วยแนวทางกล้วยๆพวกนี้

ชำระล้างผ้าที่มีไว้เพื่อปูที่นอนและก็ปลอกใส่หมอนเสมอๆ ชุดที่นอนหมอนมุ้งอย่างผ้าที่เอาไว้ปูที่นอน หมอน หรือแม้กระทั้งผ้าที่เอาไว้ห่มที่จำเป็นต้องใช้งานเสมอๆด้านในห้องนอน ล้วนเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและก็ระบบทางเท้าหายใจเป็นอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นไรฝุ่นผงที่ซุกซ่อนตัวอยู่ตามเส้นใยผ้าพวกนั้น

ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ และก็สิ่งสกปรกแหล่งชุมนุมกับรอยเปื้อนเหงื่อไคลต่างๆที่ติดอยู่ตามชุดที่นอนหมอนมุ้ง

เมื่อไม่มีกระบวนการทำความสะอาดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็เลยกำเนิดเป็นเชื้อโรคไรฝุ่นผงที่สะสมอยู่ด้านในห้องนอน การเปลี่ยนชุดที่นอนหมอนมุ้งบ่อยๆด้วยการนำไปล้างชำระล้างอยู่ตลอดทุกอาทิตย์ ก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาไรฝุ่นผงข้างในห้องนอนได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

นำที่นอนนอนแล้วก็หมอนไปผึ่งแดด สำหรับชุดที่นอนหมอนมุ้งที่ยากต่อวิธีซักล้างชำระล้างชี้แนะให้เลือกใช้ขั้นตอนธรรมชาติอย่างการตากแดด

โดยการนำชุดที่นอนหมอนมุ้งที่ยากต่อวิธีสำหรับซักไปผึ่งแดดเสมอๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรังสีจากแดดช่วยกำจัดจำนวนเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในชุดที่นอนหมอนมุ้งให้ต่ำลง

 

ดูดฝุ่นละอองในห้องนอนอย่างสม่ำเสมอ การดูดฝุ่นผงในห้องนอนเสมอๆนับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถจะช่วยลดการเกิดไรฝุ่นละอองได้มากขึ้น

แต่ว่าเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการกำจัดไรฝุ่นผงได้อย่างดีเยี่ยม ควรที่จะทำการเลือกใช้เครื่องดูดไรฝุ่นละอองที่มีคุณภาพดีแทนการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นผงปกติ ก็จะช่วยในการขจัดรอยคราบปัญหาไรฝุ่นผงในห้องนอนได้อย่างมีคุณภาพ

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

หลังวิกฤตการณ์น้ำท่วม ต้องรีบดูแลบ้านขับไล่ความชื้น

หลังจากเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วมบ้าน เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านคงกำลังมองหาวิธีทำความสะอาดบ้านหลังจากนี้กันอยู่ ซึ่งการที่ทิ้งบ้านให้แช่น้ำนาน ๆ จะทำให้เชื้อราและความชุ่มชื้นเต็มในบ้านไปแล้ว ซึ่งวันนี้เรามีวิธีดูแลบางอย่าง ดังนี้

– เครื่องเรือน หรือข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยธรรมดาอุปกรณ์กลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากสักเท่าไรนักถ้าเอามาล้างชำระล้างข้างใน 24-48 ชั่วโมงที่เจอเชื้อ หรือเริ่มพินิจเป็นดอกขึ้น

แม้กระนั้นในเรื่องที่อุทกภัยแล้วปลดปล่อยบ้านไว้นานแรมเดือนขอชี้แนะให้ทิ้งสิ่งของที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนต่าง ๆ ไปเลยไม่จำเป็นต้องลังเลอาลัยอาวรณ์ เนื่องจากว่าบางครั้งก็อาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายอย่างยิ่งขึ้นได้

 

– ย้ายเครื่องเรือน หรือเครื่องใช้สอยที่มีราขึ้น (แล้วก็ในเวลานี้ได้ชำระล้างแล้ว) ไปอยู่ในที่ที่อากาศระบายได้ดี หรือที่แดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง เป็นราว ๆ 1-2 อาทิตย์ แล้วหมั่นรอวิเคราะห์ว่า ภายหลังชำระล้างแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกไหม

ถ้าเกิดว่าไม่มี สามารถมั่นใจแล้วว่าพวกเราได้ชำระล้างเชื้อราออกไปได้สะอาดแล้วจริง ๆ แต่ว่าถ้าหากยังเจอร่องรอยของเชื้อรา ขอให้เอามาชำระล้างใหม่ ด้วยเหตุว่ามันจะลุกลามได้ง่ายดายหากวันหนึ่งอากาศเปียกชื้นอีกที

 

– วอลเปเปอร์ ใช้ salicylic acid ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 แล้วต่อจากนั้นนำผ้ามาชุบไปขัดถูวอลเปเปอร์บ่อย ๆ ราว 2 รอบ แต่ว่าหากว่ามีเชื้อราอยู่มากมาย เสนอแนะให้รื้อถอนทิ้งแล้วเปลี่ยนแปลงวอลเปเปอร์ใหม่จะดีมากกว่า

 

– เสื้อผ้า ผ้าม่าน แล้วก็ผ้าที่เอาไว้ห่ม แม้ เจอเชื้อรา สามารถทำลายเชื้อพื้นฐานได้โดยใช้น้ำร้อน หลังจากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง และก็ตากในที่ที่มีแสงอาทิตย์แค่นั้น เพื่อเป็นการทำลายเชื้ออีกครั้ง

 

– งดเว้นกิจกรรมที่จะนำไปสู่ความชุ่มชื้นข้างในบ้าน ถ้าเกิดตัวบ้านเพิ่งจะมีราขึ้นแล้วก็ได้รับกระบวนการทำความสะอาดไปใหม่ ๆ ไม่สมควรต้มน้ำ ซักผ้า ตากผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด แม้กระนั้นควรจะเปิดให้อากาศข้างนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะในวันแดดจ้า แม้ว่าจะทำให้ท่านร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่ว่าแสงอาทิตย์จะช่วยทำลายเชื้อราได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

 

ดังนี้  เวียดนามมีคาสิโนไหม   หลักจากกำจัดเชื้อราแล้ว ก็อย่าเพิ่งจะปล่อยทิ้งปล่อยวางดวงใจไป ควรจะตรวจดูอย่างสม่ำเสมอ เดี๋ยวนี้ก็บางครั้งอาจจะอ่อนแรงกันหน่อยสำหรับเรื่องดูแลชำระล้างบ้าน แม้กระนั้นจะทำยังไงได้ ก็จำต้องทำกันไป เพราะเป็นบ้านของเราหากไม่ทำความสะอาดจัดการเกรงว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านในอนาคต

ระหว่างการใส่คอนแทคเลนส์กับใส่แว่นอันไหนดีกว่ากัน

 

การเลือกระหว่างการใส่คอนแทคเลนส์และการใส่แว่นนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพของแต่ละบุคคล ดังนี้

คอนแทคเลนส์

1.ความสะดวกสบาย: คอนแทคเลนส์มักจะให้ความสะดวกสบายมากกว่าในการใช้งานทั่วไป เช่น ไม่มีอุปสรรคในการกีดกันมองเห็น และไม่มีการเคลื่อนไหวระหว่างการใช้งาน

2.การมองเห็นที่ชัดเจน: คอนแทคเลนส์มีการปรับให้สอดคล้องกับรูปร่างของดวงตา ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนและไม่มีปัญหาเรื่องการพลิกดู

3.การใช้งานในกิจกรรมกีฬา: สำหรับบางคนที่เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ต้องการการเคลื่อนไหวมาก คอนแทคเลนส์อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวของแว่นที่อาจทำให้หล่นหรือมีการสะท้อนทำให้เสียดทาน

 

แว่นตา

1.ความสะดวกสบายในการใช้งานทั่วไป: แว่นตามักมีความสะดวกสบายในการใช้งานทั่วไป ไม่ต้องมีการสังเกตเพื่อการดูแลรักษาเหมือนคอนแทคเลนส์

2.ความคุ้มค่า: แว่นตามักมีราคาที่ถูกกว่าคอนแทคเลนส์และไม่ต้องแทงความเสี่ยงในกรณีที่สูญหายหรือเสียหาย

3.สุขภาพตา: การใส่แว่นตาสามารถช่วยป้องกันฝุ่น แสงแดด และสารพิษจากสิ่งแวดล้อมได้

ดังนั้น การเลือกใช้คอนแทคเลนส์หรือแว่นตานั้น เป็นส่วนตัวและขึ้นอยู่กับความต้องการและสะดวกสบายของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ตาเพื่อเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุดตามสภาพและความต้องการของตนเอง

ใส่คอนแทคเลนส์เป็นอันตรายต่อดวงตาของเราหรือไม่

การใส่คอนแทคเลนส์อาจมีความเสี่ยงต่อดวงตา แต่ไม่จำเป็นที่จะเป็นอันตรายในทุกกรณี ด้วยเหตุผลดังนี้

1.การใส่คอนแทคเลนส์ไม่ถูกต้อง: การไม่ทำความสะอาดมือก่อนการจับคอนแทคเลนส์หรือการใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่นานๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพตา

2.การสะสมของแบคทีเรีย: คอนแทคเลนส์ที่ไม่ถูกทำความสะอาดอย่างเพียงพอหรือสะสมของแบคทีเรียบนผิวคอนแทคเลนส์อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาได้

3.การใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่นาน: การใส่คอนแทคเลนส์ในระยะเวลาที่ยาวนานอาจทำให้ดวงตาไม่ได้รับการหายใจอย่างเพียงพอหรือลดความชื้นในตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอักเสบหรือแพ้ที่ดวงตา

4.การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม: การเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับสายตาหรือไม่ใช่ประเภทที่ถูกแจ้งเหตุจากอาจารย์ตา อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายในตาได้

เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตา ควรปฏิบัติตามขั้นตอนและแนวทางในการดูแลสุขภาพคอนแทคเลนส์และดวงตาที่ถูกต้อง รวมถึงปฏิบัติการล้างมืออย่างถูกต้องก่อนการใส่และถอดคอนแทคเลนส์ออกทุกครั้ง และให้เคลือบคอนแทคเลนส์ในน้ำยาที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในดวงตาลงล้าน

 แต่หากมีอาการไม่สบายในตาหรืออาการอื่นๆ เกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อประเมินและรับการรักษาให้เหมาะสม

 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโน ญาจาง

มารู้จักโรคไข้ทรพิษหรือฝีดาษ (Smallpox)

โรคไข้ทรพิษหรือฝีดาษ (Smallpox) เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากไวรัส Variola ซึ่งมีการแพร่ระบาดได้โดยง่ายและมักจะทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้ โรคนี้มักจะเริ่มต้นด้วยอาการเด่นที่ผิวหนังที่มีลักษณะของตุ่มนูนที่เติบโตขึ้นเป็นตามร่างกาย เช่นในที่ประชากรเกี่ยวกับใบหน้าและชายโครง

ซึ่งตุ่มนูนเหล่านี้จะพัฒนาเป็นขุยในภายหลัง และสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย อาการอื่นๆ รวมถึงไข้สูง อ่อนเพลีย ปวดร้าว และการสั่นสะเทือนก็อาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่รุนแรงสุด ๆ การติดเชื้อจากไข้ทรพิษอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางชีวภาพเช่น หนองในสมอง หรือหัวใจและหลอดเลือด

 

โรคไข้ทรพิษเป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์เพราะเป็นหนึ่งในโรคที่มีการระบาดร้ายแรงมากในอดีต การระบาดของโรคนี้ได้มีผลกระทบทางสังคมและประวัติศาสตร์อย่างมาก โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยในปัจจุบันโรคไข้ทรพิษได้ถูกกำจัดออกไปจากโลกในปี 1980 โดยผ่านการทำความสะอาดและการฉีดวัคซีนให้กับประชากรโลก

 

การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการป้องกันโรคนี้ โดยมีการพัฒนาวัคซีนโดยใช้ไวรัสที่อ่อนแรง (vaccinia virus) ซึ่งเป็นพ่อแม่ของไข้ทรพิษ หลังจากการทำความสะอาดและโปรแกรมวัคซีนที่กำหนดเสร็จสิ้น โรคไข้ทรพิษได้ถูกกำจัดจากโลก

โดยตอนนี้ได้เก็บตัวอย่างของไข้ทรพิษไว้เพียงแค่ในห้องทดลองในสถาบันการแพทย์เท่านั้น การกำจัดโรคไข้ทรพิษถือเป็นความสำเร็จทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญสำหรับสาธารณสุขของโลก

การป้องกันโรคไข้ทรพิษมีวิธีหลักๆ ดังนี้

1.วัคซีน: การฉีดวัคซีนไข้ทรพิษเป็นวิธีป้องกันหลักๆ โดยวัคซีนนี้จะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสไข้ทรพิษโดยที่ไม่ต้องเผชิญต่อการติดเชื้อจริงๆ ซึ่งวัคซีนไข้ทรพิษได้ถูกใช้ในการควบคุมการระบาดของโรคนี้ในอดีตและได้ช่วยในกระบวนการกำจัดโรคไข้ทรพิษออกจากโลก

2.การควบคุมการแพร่ระบาด: การแยกบุคคลที่ติดเชื้อไข้ทรพิษออกจากสังคมหรือการควบคุมการติดเชื้อในกลุ่มที่เป็นโรคเพื่อลดการแพร่ระบาดของไข้ทรพิษเป็นวิธีการป้องกันที่สำคัญ

3.การออกแบบและปฏิบัติการควบคุมการระบาด: การเผชิญต่อโรคไข้ทรพิษนั้นมีความเสี่ยงสูงในสถานที่ที่มีการระบาดของโรค เช่น ในสถานที่ที่มีผู้ป่วยเป็นไข้ทรพิษ การใช้เครื่องป้องกันส่วนบุคคล เช่น หน้ากากอนามัย และการล้างมืออย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

4.การแถลงเผยข้อมูลและการเข้าใจเกี่ยวกับโรค: การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไข้ทรพิษและวิธีการป้องกันมีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันการระบาดของโรค การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เกี่ยวกับโรคและวิธีการป้องกันจะช่วยเพิ่มความตั้งใจในการป้องกันโรคของประชากรในทั่วไป

การป้องกันโรคไข้ทรพิษมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ร้ายแรงและมีความรุนแรงสูง การดูแลสุขภาพส่วนบุคคลและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการระบาดของโรคนี้ในสังคม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ใส่เครื่องช่วยฟังดีไหม

ทริคจัดของตุ้เย็นให้หยิบง่าย เห็นง่าย

ตู้เย็นกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่อาจจะคาดคิดได้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง เนื่องจากมีอะไรก็เอาเข้าไปแช่ในตู้เย็น จนบางทีลืมการมีอยู่ของมัน จนกระทั่งอาจจะหมดอายุ หรือเน่าเสียไปแล้ว ทั้งนี้เพียงเลือกจัดระเบียบตู้เย็น เช่น

– ถาดหมุนในตู้แช่เย็น ขวดเครื่องปรุง ซ๊อส แยม น้ำพริกต่าง ๆ เมื่อมีจำนวนไม่ใช่น้อยทำให้การจับขวดที่อยู่ด้านในสุดไม่ใช้ว่าจะง่าย ถาดหมุนขนาดเล็กในตู้แช่เย็นจะช่วยทำให้การจับใช้ เกิดเป็นเรื่องที่แสนสบาย

 

เปิดตู้แช่เย็นเสมือนงมเข็มในมหาสมุทร เหมือนการขับรถยนต์หลงทาง กับการหาของในตู้แช่เย็นไม่พบ เกิดขึ้นมาจากปัจจัยคล้ายกันเป็นการขาดป้ายสำหรับบอกทาง

– ติดโน้ตหน้าตู้แช่เย็น เพื่อบอกทุกคนในบ้าน ด้วยใจความสั้น ๆ บางทีอาจเลือกใช้ตามหมวดของกินของบ้านพวกเรา ยกตัวอย่างเช่น ในตู้แช่เย็นมีของสดอะไรอยู่บ้าง มีอาหารอยู่ที่ไหน มีอะไรที่จำต้องรีบทาน หรือ ใกล้หมดอายุ

 

– ป้ายบอก ในบางครั้งพวกเราก็แยก แกงเทโพ กับ พะแนง ที่อยู่ในกล่องไม่ออก การติดป้ายแต่ละกล่องก็เลยช่วยบอกพวกเราว่านี่เป็น ข้าวผัดหรือแกงจืดได้อย่างง่ายดายนอกจากนี้แล้ว ยังสามารถเจาะจง วันหมดอายุ ลงไปในป้ายได้อีกด้วย

 

– พวกเราจัด แม้กระนั้นผู้อื่นทำเกลื่อนกลาดการแบ่งแต่ละชั้นในตู้แช่เย็น จะช่วยทำให้เก็บได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ค้นหาง่าย ถือใช้ได้ทันทีทันควัน ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลารื้อถอนค้นอีกทั้งตู้แช่เย็น มาดูแนวทางแบ่งช่องเก็บแบบง่าย ๆ กัน

ช่องสำหรับเพื่อแช่แข็ง

– ข้างบน เก็บของกินพร้อมทานยกตัวอย่างเช่น ไอติม ของกินแช่แข็ง เพื่อไม่ให้น้ำจากเนื้อสัตว์ หรือวัตถุดิบอื่น ๆ มาแปดเปื้อนกับของกินที่พร้อมทาน

– ด้านล่าง เก็บเนื้อสัตว์แช่แข็ง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่ยังไม่ผ่านการปรุง ควรจะแยกเป็นขนาดพร้อมใช้ต่อการประกอบอาหาร 1 ครั้ง

 

ช่องแช่ปกติ

– ถึงตู้แช่เย็นแต่ละคนมีปริมาณชั้นแตกต่างกัน แม้กระนั้นทดลองดูเป็นแถวทางเพื่อประยุกต์กัน

– แนวทาง พื้นฐานหมายถึงเก็บเรียงจากของกินปรุงสุก พร้อมทาน ไว้ข้างบน ไล่ลงสู่อาหารสด วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เตรียมพร้อมสำหรับทำอาหาร เพื่อคุ้มครองป้องกันการแปดเปื้อน

– ของกินที่หยิบมากินบ่อย ๆ แล้วก็ ของกินที่มีอายุไม่นาน ยกตัวอย่างเช่น นม โยเกิร์ต ขนมปัง เอาไว้ในชั้นที่ใกล้มือ แลเห็นง่าย จับสบาย

– ผัก แล้วก็ ผลไม้ เก็บไว้ภายในลิ้นชัก เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงเดิม และก็ ไม่สมควรเก็บ ผัก แล้วก็ ผลไม้ เอาไว้ในลิ้นชักเดียวกัน เพราะเหตุว่าจะมีผลให้ผักบูดเน่าเร็วขึ้น

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังซื้อมาใส่เองได้ไหม

ประโยชน์ของน้ำยาเช็ดกระจกที่หลายท่านยังไม่รู้

สำหรับการเช็คกระจกถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างของแม่บ้านที่จะต้องทำหรือของบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นนั้นเพราะการเช็คกระจกนั้นจะช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้นลองคิดดูสิว่าถ้ากระจกของขุ่นมัวหรือเปื้อนเมื่อคุณมองไปแล้วจะรู้สึกว่ามันสกปรกทำให้บ้านของคุณดูเปรอะเปื้อนไม่น่าดูอีกด้วย

นั่นจึงถือได้ว่าการเช็ดกระจกเป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งของการทำความสะอาดบ้านนอกจากนั้นแล้วการเช็คกระจกยังทำร้ายเชื้อโรคต่างๆที่ เกาะอยู่บนกระจกซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเป็นผลเสียกลับเราอย่างแน่นอน ดังนั้นเราจึงมาบอกประโยชน์ของน้ำยาเช็ดกระจกที่เชื่อว่าหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าการใช้น้ำยาเช็ดกระจกนั้นมันดีอย่างไรหรือมีข้อเสียอย่างไรบ้าง

 

ประโยชน์ของน้ำยาเช็ดกระจกมีดังนี้

 1.ขจัดคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนกระจกได้เป็นอย่างดี

สำหรับน้ำยาเช็ดกระจกแล้วมีส่วนผสมของสารที่ทำให้คราบฝุ่นที่เกาะอยู่บนกระจกของเราหลุดออกไปได้ไม่ว่าจะเป็นคราบฝังแน่นหรือจะเป็นภาพที่เกาะตามบนพื้นผิวกระจกอย่างไรก็ตามน้ำยาเช็ดกระจกนั้นสามารถที่จะช่วยให้คราบเหล่านี้ออกจากกระจกได้อย่างง่ายดาย

 

2.ขจัดคราบมันที่ติดอยู่บนกระจกได้อย่างง่ายดาย

นอกจากฝุ่นแล้วก็ยังมีมีคราบเปื้อนที่อยู่ตามกระจก ซึ่งถ้าหากเราใช้น้ำยาเช็ดกระจกแล้วเราก็จะสามารถขจัดคาบเหล่านั้นออกไปได้อย่างง่ายดายแต่ว่าถ้าเราใช้แค่น้ำเปล่าเช็ดคราบมันเหล่านี้จะไม่ออกเด็ดขาดดังนั้นการใช้น้ำยาเช็ดกระจกบางชนิดจะขจัดคาบมันเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

 

3.ช่วยเพิ่มความใสและเงาให้แก่กระจกของเรา

สังเกตไหมว่าเวลาที่เรานั้นเช็ดกระจกด้วยน้ำเปล่าถึงแม้ว่ากระจกของเราจะสะอาดก็ตามแต่มันจะไม่ใสและเงาเลยแต่ถ้าหากว่าคุณใช้น้ำยาเช็ดกระจกแล้วจะช่วยให้มีความใสและเงามากขึ้นเนื่องจากว่าน้ำยาเช็ดกระจกนั้นจะมีสารบางชนิดที่ส่งผลให้กระจกของคุณใสและเงาขึ้นนั่นเอง

 

4.น้ำยาเช็ดกระจกช่วยเช็คฆ่ามดและแมลงที่เกาะติดอยู่บนกระจกได้

อย่างที่ได้บอกไว้ว่าการใช้น้ำเปล่านั้นสามารถเช็คได้ก็จริงแต่คราบบางชนิดไม่สามารถเช็ดออกได้หรือออกได้ไม่หมดอาจจะทิ้งคราบไว้ แต่ว่าน้ำยาเช็ดกระจกจะสามารถทำให้คราบมดแมลงที่ติดเกาะอยู่บนกระจกหลุดออกได้อย่างง่ายดายและนอกจากนั้นยังไม่ทิ้งคารบไว้อีกด้วย

ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นคราบมดหรือไม่ว่าจะเป็นคราบของอะไรก็ตามที่ติดบนกระจกของคุร เพียงคุณใช้น้ำยาเช็ดกระจกก็สามารถนำคราบเหล่านั้นหลุดออกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเราเชื่อว่าน้ำยาเช็ดกระจกมีความสำคัญต่อทุกบ้าน และเราควรมีติดบ้านทุกหลัง

 

สนับสนุนโดย    Inspire Entertainment Resort

เปิด 3 สาเหตุที่ทำให้เรานอนไม่หลับ

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไม่เราถึงชอบมีอาการนอนไม่หลับอยู่บ่อย ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีความเครียด เรามีความกังวลใจ หรืออาจจะมักคิดสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ จึงทำให้เรามีอาการวิตกกังวล และนอนไม่กลับนั่นเอง ซึ่งปัญหานี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้น และพบเจอได้บ่อยมาก ๆ

เนื่องจากในแต่ละวันนั้นเรามักที่จะมีเรื่องให้คิด และเราก็ไม่สามารถที่จะหยุดคิดได้ จนทำให้บางคนนั้นมีพฤติกรรม หรือมีนิสัยการนอนหลับยาก

นอนหลับไม่เพียงพออยู่เสมอนั่นเอง ถึงแม้ว่าในสมัยนี้การนอนหลับอย่างเพียงพอจนมีความสำคัญและจำเป็นต่อเรามากขนาดไหนก็ตาม หากเราไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่ใส่ใจกับการนอน อาจจะทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบอย่างหนักได้

ฉะนั้น เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่มีอาการนอนไม่หลับ มักที่จะมองหาวิธีที่จะช่วยกระตุ้นให้ตนเองนั้น สามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า สาเหตุที่ทำไมเราถึงนอนไม่หลับ จะมีสาเหตุไหนบ้างที่เกิดขึ้นไปดูกันเลย 

โรคสมาธิสั้น อาการสมาธิสั้น เป็นหนึ่งในอาการที่เรามักที่จะพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ

เพราะเป็นอาการที่เรานั้นมักที่จะไม่อยู่นิ่ง ไม่ว่าเราจะเจอกับสิ่งไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็มักที่จะให้ความสนใจอยู่เสมอ และการที่เรามีอาการดังกล่าวนี้จะทำให้เราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายของตนเองได้ ไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้ นั่นจึงอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ว่าทำให้เราถึงนอนไม่หลับนั่นเอง 

โรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของจิต

ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่แล้ว มักที่จะมีอาการย้ำคิดย้ำทำอยู่เสมอ มักที่จะทำอะไรเดิม ๆ จนไม่สามารถที่จะหยุดมันได้ ไม่ว่าจะเป็นการการทานข้าว การเข้าห้องน้ำ การล้างจาน หรืออื่น ๆ เพราะในหัวอาจจะคิดเพียงแค่ว่ากลัวมันไม่สะอาดเราจึงต้องทำมันซ้ำ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาการนี้ก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้เรานั้นมีอาการนอนไม่หลับได้ 

ความเครียดหรือความวิตกกังวล อย่างที่หลายคนอาจกันดีว่า ความเครียด

หรือปัญหาอาการิตกกังวลนั้น เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่มักจะทำให้เรานอนไม่หลับ และนอนหลับยากอยู่เสมอ ซึ่งหากใครที่มักจะนอนไม่หลับ ให้เราลองสังเกตตนเองว่าเรามีความเครียดหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้จัดการกับความเครียด และทำให้เรานั้นสามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาถูก

ภาวะท้องอืดอาหารไม่ย่อยจะแก้อย่างไรดี

ภาวะท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นหนึ่งปัญหาที่พบเจอได้บ่อยมาก ๆ ในสมัยปัจจุบันนี้ เพราะคนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไตรงเวลา ทานอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย จนก่อให้เกิดปัญหาท้องอืดขึ้นได้

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าภาวะท้องอืด เป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะอาจทำให้หลาย ๆ คนนั้นเกิดความเคยชินไปกับอาการดังกล่าว จเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ว่าอาการท้องอืดจะดูเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญ และ  เครื่องช่วยฟัง   ไม่ควรปล่อยละเลยการดูแล เพราะอาจจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น จนอาจเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะอาการท้องอืด จะมีสาเหตุมาจากปัญหาความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารนั่นเอง

ฉะนั้น การที่เราให้ความสำคัญกับการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานอาหารให้ตรงเวลา อาจช่วยป้องกัน และบรรเทาอาหารท้องอืด ท้องเฟ้อได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และกำลังมองว่าวิธีบรรเทา และป้องกันอาการ วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการท้องอืดได้ แถมยังเป็นวิธีแก้อาการท้องอืดที่ดีอีกด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

การดื่มชาขิง อย่างที่เราทราบกันดีว่า ขิง เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีฤทธิ์ร้อนที่สามารถช่วยขับลมแล้ว ยังช่วยแก้อาการท้องอืดได้ดีมาก ๆ เพราะชาขิงจะช่วยขับเคลื่อนอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นลงไปสู่ทางเดินอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานไม่หนักจนเกินไป แถมยังช่วยต้านอาการอักเสบของลำไส้ได้อีกด้วย 

การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ รู้หรือไม่ว่า การที่เราหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ นั้น ถือเป็นวิธีที่สามารถช่วยบรรเทา และแก้อาการท้องอืดได้ดีมาก ๆ ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวแบบเบา ๆ หมั่นทำบ่อย ๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้ระบบทางดินอาหารของเราทำงานได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง 

การนวดตัวเอง หลายคนอาจจะมองว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่แปลกมาก ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า อาการท้องอืด สามารถแก้ได้ด้วยการนวดตัวเอง ซึ่งเราควรที่จะนวดบริเวณใต้ซี่โครง นวดเป็นวงกลม ซึ่งการนวดเบา ๆ นั้นจะช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ดี แถมยังสามารถช่วยขับลม ทำให้อาการท้องอืดของเรานั้นบรรเทาลงได้ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่สามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย รับรองได้เลยว่า หากใครที่มีอาการท้องอืดและทำแบบนี้บ่อย ๆ จะช่วยบรรเทาอาการได้อย่างแน่นอน

3 วิธีฝึกตนเองอย่างไรให้ออกกำลังกายจนเป็นนิสัย

 

การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกในรูปแบบไหนก็ตามย่อมมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราทั้งนั้น เพราะการออกกำลังกาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงให้แก่เราได้ แถมการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ยังต้องการออกกำลังกาย

เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้ชีวิตที่ราบรื่นนั่นเอง

ฉะนั้น เราจะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีได้ แต่ยังสามารถช่วยป้องกันร่างกายของเราจากการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกาย หรือบางคนอาจจะขี้เกียจจนเป็นนิสัย และปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง จนก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นกับร่างกาย ฉะนั้น สำหรับใครที่อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเอง

จากการออกกำลังกาย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการฝึกตนเองอย่างไรให้อยากออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรูปร่างที่ดี สร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

  • การกำหนดเวลาให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราอยากออกกำลังกายมากขึ้นคือ การที่เรากำหนดเวลาในการออกกำลังกายให้เหมาะสมากที่สุด เพื่อเป็นการฝึกเป็นนิสัย ยิ่งถ้าเราทำแบบนี้ทุก ๆ วัน อาจจะทำให้การออกกำลังกายเข้าไปเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตในประจำวันได้ แถมยังอาจทำให้เรานั้นสามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่คิดว่ามันน่าเบื่อนั่นเอง 

  • การมีวินัยในตัวเอง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การที่เราจะฝึกตนเองให้อยากออกกำลังกายมากขึ้นนั้น สิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การที่เรารู้จักการมีระเบียบวินัยในตัวเอง เพราะวิธีนี้จะช่วยให้เรานั้นมีวินัยในการออกกำลังกาย ทำให้เราอยากที่จะพัฒนาตนเองในด้านการออกกำลังกาย เพื่อฝึกความแข็งแรงของร่างกาย รับรองได้เลยว่าวิธีนี้จะช่วยให้เรานั้น อยากหันมากออกกำลังกายมากขึ้นได้

  • การมองหารูปแบบการออกกำลังกายที่ตนเองชอบ

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะฝึกตนเองให้อยากออกกำลังกายมากขึ้นนั้นคือ การที่เรามองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่เราคิดว่าเราชอบ และสนใจ เพราะวิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้เรานั้นอยากที่จะออกกำลังกายมากขึ้น แถมยังทำให้เรานั้นได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ได้สนุกไปสิ่งที่เราได้เลือกทำ เพื่อเป็นการฝึกการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน