การป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีไปติดคนอื่น

คนที่รู้ตัวเองว่ามีการติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ควรรู้จักวิธีการปฏิบัติติตนเองเพื่อไม่ให้เชื้อไปติดกับคนรอบข้างได้ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการรับผิดชอบตนเอง เชื้อโรคจะได้ไม่แพร่ไปติดคนอื่น ซึ่งเชื้อเอชไอวีนั้นสามารถแพร่เชื้อไปติดคนอื่นได้ หากเราไม่รู้จักการป้องกัน มาดูกันว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง

  • คนที่ติดเชื้อเป็นผู้หญิง ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายควรให้ผู้ชายป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัยตลอด เพราะอาจติดเชื้อต่อกันได้ ไม่ควรจูบปากกัน หากมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่คณะห้ามให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยไปใช้กับคนอื่นต่อ อาจทำให้เชื้อสามารแพร่ไปยังคนอื่นได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่คนติเชื้อต้องระวังตนเองเสมอในการมีเพศสัมพันธ์
  • คนที่ติดเชื้อเป็นผู้ชาย ถ้ารู้ว่าตัวเองมีเชื้อเอชไอวี ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่น โดยที่คนนั้นจะมีติเชื้อเหมือนกันหรือว่าไม่มีการติดเชื้อ ทุกครั้งต้องสวมใส่ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี หากมีเพศสัมพันธ์ทางปากไม่ควรปล่อยอสุจิให้อีกฝ่ายเข้าปาก ถือว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก
  • การบ้วนน้ำลาย คนที่มีเชื้อเอชไอวีการล้วนน้ำลายถือว่าเป็นการแพร่เชื้ออีกทาง ดังนั้นตามที่ชุมชนต่าง ๆ ไม่ควรไปบ้วนน้ำลายทิ้ง หรือขากเสมหะออกมาทิ้งไปทั่ว เพราะจะส่งผลให้เชื้อเอชไอวีนั้นแพร่ไปยังคนอื่นได้ 
  • ในผู้หญิงที่รู้ว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี ควรป้องกันไม่ให้ตนเองตั้งท้องเด็ดขาด เพราะการตั้งท้องมีโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะติดเชื้อเอชไอวีต่อจากเราได้ หรือถ้าเกิดการตั้งท้องโดยไม่รู้ตัวก่อนควรรีบไปปรึกษาทางหมอจะได้จัดยาต้านเชื้อให้ทานก่อน เพื่อป้องกันเชื้อส่งไปยังลูก
  • การบริจาคเลือด คนที่มีเชื้อเอชไอวีนั้นงดการบริจาคเลือดทุกทาง แต่คนติเชื้อสามารถรับเลือดจาดคนอื่นได้ เพราะการบริจาคเลือดออกไปถือว่าเป็นการแพร่เชื้อโดยการถ่ายเลือดไปให้คนอื่น
  • หากต้องมีการแต่งงาน ผ็ที่ติดเชื้อควรแจ้งให้กับคนรักตนเองทราบด้วยว่าตนเองมีเชื้อเอชไอวี เพราะถ้าทราบก่อนอาจจะได้ป้องกันตัวเพื่อที่จะได้ไม่ติดเชื้อต่อกัน 
  • ในกรณีที่ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล การไปติดต่อทุกครั้งควรแจ้งให้ทางหมอทราบว่าตยเองนั้นมีการติดเชื้อเอชไอวี ทางหมอจะได้ป้องกันในการใช้อุปกรณ์ในกรณีเจาะเลือดต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังคนอื่น ๆ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ชุดตรวจ hiv